Category Archives: article

ข้อควรรู้ ก่อน ซื้อคอนโด!!

ที่อยู่อาศัยประเภท “คอนโด มิเนียม” ปัจจุบันได้รับความนิยมสำหรับคนกรุงเทพฯ เนื่องจากสามารถตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดอาคารใหม่ๆ โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าจำนวนมาก แต่ทว่าคอนโดเกิดใหม่เหล่านี้มีทั้งที่ขายได้หมดและขายได้เพียงบางส่วน เช่น ขายได้เพียง 20% และอีก 80% เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ประกอบการ

..การขายไม่หมดอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าใช้จ่ายที่อาจทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบ หากไม่ทราบว่าต้องรู้อะไรบ้างเมื่อตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่นำมาใช้ในการบริการจัดการภายในอาคาร

..สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมจะต้องเตรียมก็คือ เงินกองทุน ซึ่งกฎหมายระบุว่าเงินกองทุนมีไว้เพื่อซ่อมแซมส่วนกลาง โดยเฉพาะการบำรุงรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ลิฟต์โดยสาร หรือการทาสีใหม่ทั้งอาคาร เงินกองทุนนี้จะเก็บประมาณ 10 เท่าของค่าส่วนกลาง เช่น หากต้องจ่ายค่าส่วนกลางในอัตรา 50 บาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ผู้อยู่อาศัยจะต้องจ่ายค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. ซึ่งต้องจ่ายนอกเหนือจากราคาห้องที่ซื้อ เช่น ซื้อคอนโดขนาด 40 ตารางเมตร จะต้องจ่ายค่ากองทุนจำนวน 2 หมื่นบาท (40×500) ผู้ซื้อคอนโดจะต้องเตรียมเงินส่วนนี้ไว้โดยทางผู้ขายจะชี้แจงเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนเงินกองทุนจะจ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ได้แล้ว

..นอกจากนี้ ยังต้องมีค่าส่วนกลางซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายและค่าบริการต่างๆ ประจำเดือน เช่น เงินเดือนพนักงาน แม่บ้าน ธุรการ รวมทั้งรายจ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาส่วนกลางของอาคาร ปกติแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะมีการเก็บล่วงหน้า 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละอาคาร สำหรับค่าส่วนกลางนั้นคำนวณจากพื้นที่ห้องแล้วคูณด้วยอัตราค่าจัดเก็บ เช่น พื้นที่ 40 ตร.ม. ค่าส่วนกลาง ตร.ม.ละ 50 บาท (40x50x12= 2.4 หมื่นบาท)

..ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการจัดเก็บค่าส่วนกลางที่ผ่านมา คือ ไม่สามารถเก็บจากห้องที่ยังไม่ได้ขายได้ซึ่งอาจมีมากถึง 80% ของจำนวนห้องทั้งหมด ตามกฎหมายระบุว่า หลังจากที่จดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว ห้องที่ยังขายไม่หมดผู้ประกอบการในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบค่าส่วนกลาง แต่ส่วนใหญ่มักบ่ายเบี่ยงหรือมีการอนุโลมขอจ่ายเป็นรายเดือนได้ 1 ปี หลังจากนั้นจะต้องจ่ายทั้งหมดเข้าบัญชีของนิติบุคคล หรือให้นิติบุคคลคิดเบี้ยปรับการชำระค่าส่วนกลางล่าช้า..ปัญหานี้ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ไม่ทราบข้อมูลทำให้เสียเปรียบ และเสียโอกาสที่จะได้รับดอกเบี้ยจากธนาคาร เนื่องจากช่วงแรกผู้ประกอบการมักใช้บริษัทในเครือทำหน้าที่บริหารทรัพย์สินของอาคาร ดังนั้น ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้เสียสิทธิในการอยู่อาศัยในอาคารชุด.

โดย…ธนันทร์เอก หวานฉ่ำ ประธานกรรมการฯ บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้แมเนจเม้นท์ (IRM).

“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”

เลือก IRMNEXT

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่

พ.ร.บ. จัดสรรใหม่ คุ้มครองผู้บริโภค หรือ ผู้ประกอบการ!!

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคำถามฮอตฮิต ที่หลายๆท่านเข้ามาปรึกษาเราเกี่ยวกับเรื่องการแก้ พ.ร.บ.จัดสรร โดยเฉพาะเรื่องโฉนดที่ดินที่เป็นสาธารณูปโภค หรือโฉนดที่ดินที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทำให้เกิดความชัดเจน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับผู้พัฒนาบ้านจัดสรรที่มักสร้างความเข้าใจผิดแก่ลูกค้า

….การเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าว จะทำให้การบริหารจัดการของผู้บริหารทรัพย์สินมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีคนกลางเข้ามาตรวจโอนสาธารณูปโภค เมื่อมีคณะกรรมการจากภาครัฐเข้ามาทำหน้าที่จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว ผู้บริหารทรัพย์สินจะต้องชี้แจงให้ผู้อยู่อาศัยทราบว่าหากส่วนกลางตกไปเป็นของสาธารณะแล้วจะเกิดผลกระทบทางด้านใดบ้าง เช่น ทำให้มูลค่าโครงการลดลงเนื่องจากความเสื่อมโทรมของโครงการ ดังนั้น จะต้องให้ความรู้แก่ผู้อยู่อาศัย” นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กล่าว

..โดยสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องต่อผู้ซื้อบ้านจัดสรร และผู้ประกอบการนั้น คือ เรื่องโฉนดที่ดินที่เป็นสาธารณูปโภค หรือโฉนดที่ดินที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะ เช่น สนามหญ้า ทางเดิน สระว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้จดแจ้งไว้หลังโฉนดว่าเป็นที่ดินส่วนกลางสำหรับสาธารณะ ซึ่งอาจถูกนำไปโอนให้แก่บุคคลอื่นได้ จึงมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยระบุไว้หลังโฉนดว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินไม่สามารถโอนได้ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการนำเอาที่ดินส่วนกลางดังกล่าวไปทำอย่างอื่น หรือโอนให้บุคคลอื่น นอกจากเป็นการโอนที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรร หรือตามกฎหมายเวนคืนที่ดิน

..นอกจากนี้แล้ว ยังมีการแก้ไขเรื่องการโอนสาธารณูปโภคให้แก่นิติบุคคลบ้านจัดสรร เดิม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินปี 2543 ระบุว่า เมื่อผู้ประกอบการสร้างสาธารณูปโภคเสร็จเรียบร้อย และดูแลครบ 1 ปี ให้ผู้ซื้อจัดตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร และทำการโอนสาธารณูปโภคให้แก่นิติบุคคล โดยจะต้องมีการซ่อมแซมให้เกิดความสมบูรณ์ ที่ผ่านมา จึงมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น และไม่สามารถโอนได้ กฎหมายฉบับนี้ได้เปลี่ยนแปลงว่าเมื่อจัดตั้งนิติบุคคลแล้วสามารถโอนสาธารณูปโภคได้เลย โดยจะมีคณะกรรมการกลางจากภาครัฐเป็นผู้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของสาธารณูปโภคก่อนส่งมอบให้แก่นิติบุคคล แต่หากไม่สามารถจดทะเบียนนิติบุคคลได้ หรือมีองค์ประชุมไม่ครบ หรือมีมติไม่จัดตั้งนิติบุคคล หากครบ 180 วันแล้ว ผู้ประกอบการสามารถโอนสาธารณูปโภคให้แก่เทศบาล หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทันที

..นายธนันทร์เอก กล่าวต่อว่า การแก้ไข พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินในครั้งนี้ ทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์จากการคุ้มครองของกฎหมาย โดยในส่วนของผู้บริโภคนั้นสามารถมั่นใจได้ว่าพื้นที่ส่วนกลางจะไม่ถูกนำไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นโดยผู้ประกอบการ และเรื่องการโอนสาธารณูปโภคโดยอัตโนมัติหลังจากได้จดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรรนั้นจะมีการตรวจเรื่องความสมบูรณ์โดยคณะกรรมการกลางจากกรมที่ดิน ทำให้ลดความขัดแย้งระหว่างทั้งผู้ซื้อ และผู้ประกอบการได้ที่สำคัญหากโครงการใดไม่จดทะเบียนนิติบุคคล

..อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อต้องทราบว่าที่ดินส่วนกลางจะตกเป็นของสาธารณะที่อยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลไม่ใช่ของนิติบุคคลอีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยในโครงการ เช่น เรื่องความปลอดภัย ความสงบ การดูแลอื่นๆ ฯลฯ เนื่องจากใครก็สามารถเข้ามาในโครงการได้ ดังนั้น จะต้องตระหนัก และวิเคราะห์อย่างละเอียดในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เคยประสบปัญหาเรื่องผู้อยู่อาศัยไม่ยอมรับสาธารณูปโภค

เนื่องจากมีข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลทำให้ผู้จัดสรรต้องดูแลพื้นที่ส่วนกลางตลอดไปก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงกฎหมายในครั้งนี้จะคุ้มครองทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการ

“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”

เลือก IRMNEXT

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่

วิธีรับมือกับโควิด 19 ในแบบฉบับของ IRMNEXT !!

          ต้องยอมรับว่า โควิด 19 ตั้งแต่สิ้นปี จนมาถึงปัจจุบัน เราได้พบปัญหาการติดเชื้อจากภายในประเทศที่สูงขึ้น ซึ่งโควิด 19 ในระลอกที่ 3 เป็นการแพร่เชื้อที่ค่อนข้างเร็ว หลายพื้นที่ในประเทศกลายเป็นจุดเสี่ยงสีแดง และในระลอกนี้เป็นการกระจายเชื้อแบบคลัสเตอร์ ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวันพุ่งสูงตามไปด้วย

      อย่างไรก็ตาม IRMNEXT ได้คำนึงถึงปัญหานี้ และเราใส่ใจ ในการที่จะดูแลผู้ที่อยู่อาศัย ตามโครงการต่างๆในเครืออย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น การฉีดพ่นฆ่าเชื้อในจุดต่างๆ ภายใน ลิฟต์ หรือ บริเวณส่วนกลางที่มักจะมีผู้เข้าใช้เป็นจำนวนมาก และเรายังใส่ใจในการทำความสะอาดจุดต่างๆของแต่ละโครงการ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัย สามารถปลอดภัยจากเชื้อ และสามารถวางใจที่จะใช้บริการในส่วนต่างๆได้อย่างสบายใจ โดย IRMNEXT ได้ยึดถือตามคอนเซป #BetterlivingBetterSolution  โดยภายใต้การดูแลด้วยทีมงานมืออาชีพ ของ IRMNEXT ซึ่งจะดูแลความสะอาดให้พื้นที่ส่วนกลางให้ดูน่าใช้อยู่เสมอ , ทำความสะอาดเครื่องเด็กเล่น , ขัดล้างห้องพักขยะ เพื่อสุขอนามัยที่ดีต่อผู้พักอาศัยในโครงการ , การดูแลพัสดุที่ปลอดเชื้อ , จุดควบคุมเพื่อตรวจอุณหภูมิผู้เข้าอาศัย , ติดตั้งเจลแอลกอฮอลฆ่าเชื้อในจุดต่างๆที่ มีการสัมผัสบ่อยอย่างทั่วถึง , จำกัดจำนวนคนในการเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลาง , ทำความสะอาดในจุดเสี่ยงทุก 2 ชั่วโมง และ IRMNEXT ได้เพิ่มช่องทางการติดต่อกรณีฉุกเฉินเพื่อดูแลผู้พักอาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      “จะเจอปัญหาโควิดอีกกี่ครั้งทีมงาน IRMNEXT ก็ไม่หวั่น ไม่ว่าจะคลัสเตอร์ไหน เราก็พร้อมรับมือ”

“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”

เลือก IRMNEXT

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT

#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด #บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร #บ้านโครงการใหม่

#COVID19

พ.ร.บ.ฉบับใหม่ มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากฉบับเก่า?

ในข้อกำหนดกฎหมาย พ.ร.บ.ฉบับใหม่ มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากฉบับเก่า?
จากที่เดิมที พ.ร.บ.อาคารชุดฉบับเก่าก็คือ พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522 และได้มีการปรับปรุงแก้ไขจนมีฉบับใหม่ล่าสุด คือ พ.ร.บ.อาคารชุด(ฉบับที่ 4) มีผลบังคับใช้เมื่อ 4 ก.ค.2551 ด้วยเหตุผลที่ว่า พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 ได้ใช้มานานมากแล้ว ทำให้ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง และไม่สามารถคุ้มครองผู้ซื้อหรือผู้บริโภคได้ จึงได้มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติ และมีข้อกำหนดบางตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพอมาถึงปี 2560 นี้ก็นับว่าล่วงเลยมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีข้อสงสัยกันอยู่ ที่ยังไม่รู้และที่ยังขาดความเข้าใจก็ยังคงมีอยู่มากเช่นกัน มาดูว่าในข้อกำหนด พ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่นี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง

สรุปที่เป็นสาระสำคัญบางประการของพระราชบัญญัติ อาคารชุด(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551

1. การเพิ่มบทนิยาม
1.1 “การประชุมใหญ่” หมายความว่า การประชุมใหญ่สามัญหรือการประชุมใหญ่วิสามัญของเจ้าของร่วมแล้วแต่กรณี

1.2 “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด

1.3 “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการนิติบุคคลอาคารชุด
1.4 “ผู้จัดการ” หมายความว่า ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด

2. การจดทะเบียนอาคารชุด
ในทางกฎหมายพ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่นี้ ได้ระบุให้มีหลักฐานและรายละเอียดเพิ่มเติมในการยื่นเอกสารการจดทะเบียนอาคารชุด ดังนี้

2.1 แผนผังอาคารชุด โดยขอให้ระบุรวมถึงเส้นทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะด้วย เพราะป้องกันปัญหาจากที่เคยมีอาคารชุดหรือคอนโดในหลายๆ โครงการที่มีการเอาที่ดินของผู้อื่นมาทำเป็นทางเข้าออก ดังนั้นต้องรวมในแผนผังด้วย

2.2 กำหนดให้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับห้องชุด ทั้งที่เป็นทรัพย์ส่วนบุคคล และทรัพย์ส่วนกลาง ได้แก่ จำนวนพื้นที่ และลักษณะการใช้ประโยชน์ เป็นต้น

2.3 การโฆษณาขายห้องชุดในอาคารชุด กำหนดให้เอกสาร ข้อมูลหรือภาพใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับการโฆษณาขายห้องชุด ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจะซื้อจะขายด้วยและให้เก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิง เพราะหลังจากคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จมักจะไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ จึงให้ตีความไปในทางที่เป็นประโยชน์กับทางผู้ซื้อเป็นหลัก

2.4 การทำสัญญาจะซื้อจะขายหรือสัญญาซื้อขายห้องชุด ระหว่างทางโครงการกับผู้ซื้อห้องชุดนั้น ต้องทำตามแบบสัญญามาตรฐาน แต่ถ้าในสัญญาไม่เป็นไปทำตามแบบสัญญาและไม่เป็นคุณต่อผู้ซื้อ สัญญาส่วนนั้นถือเป็นโมฆะ

3. เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ห้องชุด
จากพ.ร.บ.เก่าปี 2522 กรรมสิทธิ์ในส่วนของเนื้อที่ส่วนกลางหรือทรัพย์ส่วนกลางของเจ้าของร่วม ได้ระบุว่าเป็นไปตามอัตราส่วนของราคาห้องชุด ซึ่งแลดูจะมีปัญหาเพราะราคามีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในกฎหมาย พ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่นั้นให้เป็นไปตามอัตราส่วนระหว่างเนื้อที่ของห้องชุดตามที่ขอจดทะเบียนไว้ ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในเนื้อที่ หรือระบบต่างๆ ในอาคารว่าส่วนไหนใช่หรือไม่ใช่พื้นที่ส่วนกลางนั้น จึงได้กำหนดไว้ คือ

3.1 การตั้งสำนักงานของนิติบุคคลอาคารชุด ถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนกลางและจะต้องอยู่ภายในอาคารชุดเท่านั้น

3.2 สิ่งก่อสร้างหรืองานระบบต่างๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยถือเป็นทรัพย์สินส่วนกลาง เช่น การจัดแสงสว่าง การปรับอากาศ การระบายน้ำ หรือการกำจัดขยะสิ่งปฏิกูล เป็นต้น

3.3 กรณีที่มีการจัดพื้นที่ของอาคารชุดเพื่อประกอบการค้า ต้องจัดระบบการเข้าออกในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการเฉพาะไม่ให้รบกวนเจ้าของร่วม

3.4 เจ้าของร่วมต้องร่วมกันออกค่าใช้จ่าย ทั้งค่าภาษีอากรและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากสิ่งของที่ใช้ประโยชน์เป็นส่วนรวม และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดูแลรักษา ซ่อมแซม ร่วมกันจ่ายตามอัตราส่วนที่เจ้าของร่วมแต่ละคนมีกรรมสิทธิ์

3.5 กรณีที่เจ้าของร่วมไม่ชําระเงินภายในเวลาที่กําหนด ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราไม่เกิน 12% ต่อปี หากค้างชำระเกิน 6 เดือนขึ้นไปต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มในอัตราไม่เกิน 20% ต่อปี และอาจถูกตัดสิทธิ์จากการให้บริการส่วนรวมหรือการใช้ทรัพย์ส่วนกลาง รวมทั้งไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมใหญ่ด้วย

3.6 บุคคลต่างด้าวถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 49% ของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมด และในอนาคตแม้จะมีเจ้าของห้องชุดที่มีการเปลี่ยนสัญชาติหรือจากผู้ที่ได้รับโอนในฐานะที่เป็นทายาทมรดกเป็นคนต่างด้าว แต่การมีกรรมสิทธิ์นั้นยังเกิน 49% ต้องจำหน่ายในส่วนที่เกินนั้นภายใน 1 ปี นับจากวันที่เสียสัญชาติไทย

4. การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอาคารชุด
สำหรับผู้ที่ต้องการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับห้องชุดตามกฎหมาย พ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่นี้ ต้องมีหนังสือรับรองการปลอดหนี้คราวที่สุดจากนิติบุคคลอาคารชุด โดยทางผู้จัดการต้องออกให้เจ้าของร่วมภายใน 15 วัน ซึ่งแต่เดิมนั้นไม่ได้มีการกำหนดเวลา ทำให้เจ้าของร่วมไม่สะดวกและก่อให้เกิดความล่าช้า

4.1 เกี่ยวกับข้อบังคับอาคารชุด สามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับที่ได้จดทะเบียนอาคารชุดไว้ได้ แต่ต้องเป็นไปโดยมติของที่ประชุมใหญ่ ต้องนําไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน

4.2 กำหนดคุณสมบัติกรรมการนิติอาคารชุด การเพิ่มเติมในส่วนนี้เนื่องจากในทางปฏิบัติ เจ้าของโครงการมักส่งตัวแทนของตนเป็นผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด แล้วอาศัยช่องทางนี้เอาเปรียบลูกบ้าน เช่น ทำให้เจ้าของอาคารชุดไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางสำหรับห้องชุดที่ยังขายไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งนอกจากกำหนดคุณสมบัติแล้ว ยังกำหนดของการพ้นตำแหน่ง และระบุอำนาจหน้าที่เพิ่มในเรื่องการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายและให้มีการติดประกาศเพื่อทราบ และต้องฟ้องบังคับชําระหนี้จากเจ้าของร่วมที่ค้างชําระค่าใช้จ่าย เกิน 6 เดือนขึ้นไปด้วย

5. กำหนดให้มีคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดให้ชัดเจนขึ้น
ประกอบด้วยกรรมการไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 9 คน มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละ 2 ปี และจะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ และต้องนำไปจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน นับจากวันประชุมใหญ่ ซึ่งเหตุผลในการกำหนดและเพิ่มเติมบทบัญญัติในส่วนของผู้จัดการอาคารชุดขึ้นมานั้น สืบเนื่องจากในทางปฏิบัติ เจ้าของโครงการมักส่งตัวแทนของตนเป็นกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดแล้วใช้ช่องทางนี้ในการเอาเปรียบผู้พักอาศัยนั่นเอง

6. กำหนดคุณสมบัติ และคุณลักษณะของกรรมการนิติบุคคล
6.1 ต้องเป็นเจ้าของร่วมหรือคู่สมรสของเจ้าของร่วม เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลจำนวนหนึ่งคน ในกรณีนิติบุคคลเป็นเจ้าของร่วม และต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม

6.2 กรรมการพ้นจากตําแหน่งเมื่อตาย ลาออก เป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามที่ประชุมใหญ่มีมติให้พ้นจากตําแหน่ง

6.3 ในการประชุมให้ประธานกรรมการเป็นผู้เรียกประชุม หรือในกรณีที่กรรมการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร้องขอให้เรียกประชุม และต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก หากคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานมีสิทธิ์เพิ่มอีกเสียงเพื่อชี้ขาด

7. เกี่ยวกับคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด
7.1 ให้นิติบุคคลอาคารชุดจัดทำงบดุล อย่างน้อย 1 ครั้ง ทุกรอบ 12 เดือน ต้องมีรายการแสดงจํานวนสินทรัพย์และหนี้สิน บัญชีรายรับรายจ่าย และต้องจัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบ แล้วนําเสนอเพื่ออนุมัติในที่ประชุมใหญ่

7.2 ต้องจัดทํารายงานประจําปีแสดงผลการดําเนินงานเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วมพร้อมกับการเสนองบดุล และส่งสําเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่เจ้าของร่วม ก่อนวันนัดประชุมใหญ่ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน

7.3 เก็บรักษารายงานประจําปีแสดงผลการดําเนินงานและงบดุล พร้อมทั้งข้อบังคับไว้ที่สํานักงานของนิติบุคคลอาคารชุดเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าของร่วมตรวจดูได้

8. เกี่ยวกับการจัดให้มีการประชุมใหญ่
การเพิ่มเติมบทบัญญัตินี้ก็เพื่อลดช่องว่างในการที่ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดจะเข้าดำเนินกิจการต่างๆ โดยพลการ และจากเดิมการประชุมต้องเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนเสียง ทำให้จัดการประชุมได้ยาก จึงได้กำหนดการประชุมดังนี้

8.1 การประชุมใหญ่สามัญครั้งแรก – ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการและพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อบังคับและผู้จัดการที่จดทะเบียนไว้

8.2 การประชุมใหญ่สามัญ – จัดให้มีปีละ 1 ครั้งภายใน 120 วันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชีของนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อพิจารณาอนุมัติงบดุล รายงานประจําปี แต่งตั้งผู้สอบบัญชี และพิจารณาเรื่องอื่นๆ ซึ่งการเรียกประชุมใหญ่ต้องทำหนังสือนัด อย่างน้อย 7 วันก่อนประชุม และในการประชุมต้องมีการลงคะแนนรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนเสียงลงคะแนนทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

8.3 ประชุมใหญ่วิสามัญ – ในกรณีมีเหตุจําเป็นผู้ที่มีสิทธิเรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้ คือ ผู้จัดการ, คณะกรรมการโดยมติเกินกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุม หรือเจ้าของร่วมไม่น้อยกว่า 20% ของคะแนนเสียงเจ้าของร่วมทั้งหมดลงลายมือชื่อ

9. บทบัญญัติเกี่ยวกับพนักงานเจ้าหน้าที่
ในการปฏิบัติตามพ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่นี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้

9.1 มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคําชี้แจงข้อเท็จจริงหรือทําคําชี้แจงเป็นหนังสือ หรือให้ส่งหลักฐานใดเพื่อประกอบการพิจารณาหรือตรวจสอบการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

9.2 เข้าไปในที่ดินและอาคารที่ขอจดทะเบียนอาคารชุด หรือสถานที่ที่เป็นทรัพย์ส่วนกลางของอาคารชุด เพื่อ ตรวจดูเอกสารหรือหลักฐาน ข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาหรือตรวจสอบการปฏิบัติการ

9.3 อายัดเอกสาร บัญชี ทะเบียน หรือหลักฐานเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและดําเนินคดี

10. เกี่ยวกับบทกำหนดโทษ
ได้มีการเพิ่มบทบัญญัติถึงการกำหนดโทษ กรณีที่มีผู้ใดฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามจะมีการระวางโทษและปรับเงินในอัตราต่างๆ ตั้งแต่มาตรา 63 ถึงมาตรา 73 ตามพ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่ 2551 นี้ เช่น หากสัญญาซื้อขายไม่ได้ตามแบบมาตรฐานจะปรับในอัตราไม่เกินหนึ่งแสนบาท เป็นต้น

ประโยชน์จาก พ.ร.บ.อาคารชุดฉบับใหม่
มาในปัจจุบันจากที่ได้ทราบกันอยู่บ้างว่า กฎหมาย พ.ร.บ. อาคารชุดฉบับใหม่ นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นกฎหมายคอนโดใหม่คุ้มครองผู้บริโภคหรือลูกบ้านเป็นอย่างมาก ถึงแม้ในมุมของดีเวลลอปเปอร์จะมีข้อแย้งบางจุดในข้อกำหนด โดยอ้างว่ามีการเร่งผลักดันกฎหมายคอนโดออกมาใช้ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จนมีการทักท้วงว่าเป็นข้อผิดพลาด ทำให้เกิดปัญหาและเห็นว่าไม่สอดคล้องในทางปฏิบัติจริง ซึ่งความจริงแล้วกฎหมายคอนโดฉบับใหม่ได้ปรับปรุงมาเพื่อให้เหมาะกับการปฏิบัติจริงอยู่แล้วและยังเป็นการคุ้มครองผลประโยชน์ลูกบ้านด้วย ฉะนั้นในส่วนของเจ้าของโครงการก็ต้องเคารพกฎกติกา นิติบุคคลอาคารชุดต้องดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับให้สอดคล้องกับกฎหมายคอนโดดังกล่าวด้วย และเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ลูกบ้านก็ควรพัฒนาหาความรู้ให้เท่าทัน จะได้ไม่ต้องเกิดปัญหาให้หนักใจในภายหลัง

ข้อมูลจาก https://www.estopolis.com/article/knowledge/law
“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”
เลือก IRMNEXT
——————————————
รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ
Call center : 022041077/086-331-2054
Website : www.irm.co.th
ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7
#IRMNEXT
#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่ 

11คุณ และคนอื่นๆ อีก 10 คนแชร์ 3 ครั้งถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

5 ข้อป้องกัน ไวรัสโควิด สำหรับคนอยู่คอนโด

สถานการณ์ Covid-19 ปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะระบาดในวงกว้างมากขึ้น เพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้โดยเร็ว ผู้คนเริ่มหันมาดูแลตัวเอง กักตัวเองอยู่ที่บ้าน และตั้งรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา คอนโดมิเนียมที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีผู้อยู่อาศัยหลายครอบครัว ยิ่งจำเป็นต้องปรับตัวและดูแลตัวเองกันมาก แอดมินจึงมี 5 ข้อแนะนำป้องกันไวรัส Covid-19 สำหรับคนอยู่คอนโด ดังนี้

1. งดใช้มือสัมผัสลิฟต์โดยสาร หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยกด
การใช้ลิฟต์โดยสารภายในคอนโดในสถานการณ์เฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบัน มีเทคนิคแนะนำง่ายๆ โดยการใช้อุปกรณ์ช่วดกดเปิด-ปิด ลิฟต์แทนการใช้มือสัมผัสโดยตรง เช่น ใช้ซองใส่คีย์การ์ดเข้าอาคาร หรือซองใส่บัตรพนักงานกดลิฟต์แทน ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป หรือใช้ข้อศอกและหลังมือในการกดแทนเพื่อลดการสัมผัสเชื้อโดยตรง และเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตลอดเวลาที่อยู่ในลิฟต์โดยสาร ควรหันหน้าเข้ากำแพงจนกว่าจะออกจากลิฟต์ไป นอกจากนี้นิติบุคคลอาคารชุดปัจจุบันเริ่มมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด ด้วยการให้แม่บ้านประจำอาคารหมั่นเช็ดทำความสะอาดแป้นกด และห้องลิฟต์โดยสารทุกๆชั่วโมงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อีกด้วย ดูน้อยลง

2. หมั่นทำความสะอาดลูกบิดประตู หรืออุปกรณ์สัมผัสอื่นๆตลอดเวลา
มือจับหรือลูกบิดประตู คือจุดอันตรายจากเชื้อโรคอีกจุดหนึ่งที่มักถูกมองข้าม เนื่องจากเป็นจุดที่ถูกสัมผัสอยู่ตลอดเวลา จึงมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากที่สุดแห่งหนึ่ง วิธีการทำความสะอาด คือ เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจากสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรด์หรือคลอรีนน้ำความเข้มข้น 0.02 เปอร์เซ็นต์ และอย่าลืมทำความสะอาดพื้นที่ที่สัมผัสบ่อยๆ เช่น สวิตช์ไฟ รีโมททีวี หรือรีโมทเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ดูน้อยลง

3. สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเดินทางออกจากห้องพัก
ถ้าจำเป็นต้องออกงาน หรือไปเจอคนเยอะๆ ให้สวมหน้ากากอนามัย คนไม่ป่วยสวมหน้ากากผ้าได้ ส่วนคนป่วยสวมหน้ากากทางการแพทย์ ดูน้อยลง

4. งดกิจกรรม หรือออกกำลังกายในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆของคอนโด
งดกิจกรรม หรือออกกำลังกายในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆของคอนโด เช่น งดการว่ายน้ำในสระ งดการออกกำลังกายในฟิตเนส งดการใช้งานห้องสมุด หรือห้องอเนกประสงค์ร่วมกับผู้อื่น เน้นการออกกำลังกายเบาๆภายในห้อง ดูน้อยลง

5. หมั่นทำความสะอาดบริเวณห้องพัก พื้นห้อง ห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ สำหรับจุดที่ต้องสัมผัสเยอะๆ ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจากสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรด์หรือคลอรีนน้ำความเข้มข้น 0.02 เปอร์เซ็นต์ และหมั่นทำความสะอาดของใช้ใกล้ตัว โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ และคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ดูน้อยลง

“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”

เลือก IRMNEXT

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution#Covid19

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่

5 ประโยคเด็ดในหนัง ใช้สำหรับเริ่มสนทนา

จะทำยังไงให้เรามี First Impression ที่ดี ?? นอกเหนือจากบุคลิกที่ดีแล้ว ทัศนคติ มุมมองความคิด ก็ย่อมสำคัญตามมาติดๆ ทั้งเวลาคุยงาน ประชุม หรือสังสรรค์ ปาร์ตี้ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันล้วนเป็นประโยชน์แน่นอน แต่จะทำยังไงให้มันราบรื่น ไม่เคอะเขิน

วันนี้เรามีเทคนิคดีๆในการเปิดบทสนทนามาแนะนำกันครับ

1.หาสิ่งที่คุณและเขามีร่วมกัน
ถึงแม้คุณจะคิดว่าคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนนั้นเลย แต่จริงๆ แล้วคุณรู้มากกว่าที่คุณคิด ก็คุณและเขาอยู่ในห้องเดียวกันนี่ไงละ ดังนั้นคุณสามารถถามเขาได้ว่า “So what brings you here?” หรือสมมุติว่าคุณอยู่ที่งานปาร์ตี้ของ Bob เพื่อนคุณ คุณสามารถถามคนๆ นั้นว่า “How do you know Bob?”

2.ชมเขา
คนเราทุกคนต่างก็พอใจที่จะได้ยินสิ่งดีๆ เกี่ยวกับตัวเองทั้งนั้น “What a wonderful dress you’re wearing!” หรือบอกเขาว่าคุณชอบรองเท้าของเธอหรือแว่นตาของเขามาก เป็นต้น

หลังจากนั้น ถ้าคู่สนทนาของคุณไม่กล่าวอะไรต่อมากไปกว่าคำว่า “thank you,” คุณสามารถถามต่อไปว่า “Where did you get it?” หรือ “What’s it made out of?” หรือแม้แต่ “Was it expensive?” คำถามเหล่านี้ดีตรงที่มันเป็นการเปิดโอกาสให้คนๆ นั้นบอกเล่าสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเองให้คุณฟัง

3.ถามคำถามเกี่ยวกับเขา
คนส่วนใหญ่ต่างก็มีการมีงานทำกันทั้งนั้น ฉะนั้นคุณสามารถถามเขาว่า “So what do you do for a living?” หรือคุณอาจถามไปว่า “Where are you from originally?” ซึ่งหมายถึงคุณต้องการรู้ว่า เขาเกิดที่ไหน คำถามเป็นสิ่งที่ช่วยให้การสนทนาเป็นไปได้ง่ายขึ้น ถ้าคู่สนทนาของคุณเป็นคนสุภาพ เขาจะถามคุณกลับ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คุณพูดเกี่ยวกับตัวคุณเองด้วย

4.แนะนำตัวเอง
อย่างเพียงแค่กล่าวว่า “Hi, my name is John.” ให้เติมรายละเอียดเข้าไปด้วยเช่น “Hi, my name is John. I’m a friend of Bob’s from high school. We use to have the same math class together.” นี่เป็นวิธีดึงความสนใจจากคู่สนทนาและกระตุ้นให้เขาถามเกี่ยวกับคุณหรือเสนอ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาเองให้คุณทราบเป็นการสนองกลับ

5.แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบางอย่าง
คุณไม่จำเป็นต้องถามเขาเป็นการส่วนตัว แต่คุณสามารถดึงความสนใจจากเขาโดยการกล่าวลอยๆ อย่างเช่น “This is a great party” หรือ “What a lovely house this is.” ถึงแม้ว่างานปาร์ตี้หรือบ้านหลังนี้จะไม่ใช่ของเขา แต่ประโยคข้างต้นเป็นหัวข้อง่ายๆ ที่ดีในการเปิดโอกาสให้คนแสดงความคิดเห็นของเขา อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เหล่านี้ใช้ได้ดีเพราะคุณและคนแปลกหน้านี้มีบางสิ่งร่วมกัน นั่นก็คือพวกคุณกำลังคุยกันยังไงล่ะ

ที่มา : Ern Jar

“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”

เลือก IRMNEXT

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่

5 โทนสีทาห้องให้สวยโดนใจ

ช่วงหลังปีใหม่แบบนี้หลายๆ คนคงอยากปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะวางแผนออกกำลังกาย ทำสวนหลังบ้าน หรือทาสีห้องนอนโทนใหม่ แต่สีทาบ้านสมัยนี้มีเป็นร้อยเป็นพันสีให้คุณเลือก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์การตกแต่งบ้านของเรา วันนี้ IRMNEXT ขอแนะนำ 5 โทนสีทาห้องที่คนส่วนใหญ่นิยมนำไปตกแต่งบ้านกัน มันจะทำให้บ้านคุณ โดดเด่น ใครเห็นเป็นต้องชม แน่นอน ! ไปดูกันครับ
.

1.สีทาห้อง โทนสีขาว

ถือเป็นสีที่มาแรงและเป็นที่นิยมทุกยุคทุกสมัย เพราะเป็นสีที่เรียบง่าย ดูสบายตา บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้บ้านดูกว้างมากขึ้น แถมช่วยให้บ้านเย็นด้วยนะครับ เพราะโทนสีขาวถือเป็นโทนสีอ่อน ที่ดูดไม่ความร้อน จากภายนอกเข้ามาในบ้าน

การตกแต่งภายในด้วยโทนสีขาวส่วนใหญ่ นิยมนำไปใช้ตกแต่งร่วมกับโทนสีอื่นๆ อาทิ บริเวณไฮไลท์ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ก็จะเลือกใช้โทนสีขาวตกแต่งบริเวณรอบๆห้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสบายตา และทำให้ภายในห้องดูปลอดโปร่ง ไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ หากผนังบ้านสีขาว เราก็สามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยสีสันของเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ หากชอบสไตล์มินินอล แนะนำเลือกใช้ของตกแต่งโทนสีอ่อน รับรองห้องดูสบายตาแน่นอนครับ

โทนสีขาวให้อารมณ์ ความรู้สึก : ความบริสุทธิ์ ความเรียบง่าย ความสะอาด

ห้องที่เหมาะกับโทนสีขาว : ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ดูน้อยลงแก้ไขถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

2. สีทาห้อง โทนสีเทา

เป็นโทนสีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สีอื่นๆ เพราะ เมื่อนำสีเทามาตกแต่งบ้าน จะทำให้บ้านดูทันสมัย ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น รวมไปถึงสไตล์ลอฟท์ ซึ่งมักจะเลือกตกแต่งเป็นผนังปูนเปลือย ผนังลวดลายอิฐในโทนสีเทา ก็ช่วยสร้างอารมณ์ที่แปลกใหม่ให้กับห้องได้ นอกจากนี้ สีเทายังเป็นสีที่ดูน่าเชื่อถือ หากใครที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ให้ดูเป็นผู้ใหญ่ ก็สามารถนำสีเทาไปปรับใช้ได้ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ อาจเลือกใช้สีขาว สีดำ เพื่อให้เป็นไปในโทนใกล้เคียงกัน หรือตัดด้วยโทนสีเข้มอย่างสีเขียว น้ำเงิน ก็สามารถตกแต่งได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

โทนสีเทาให้อารมณ์ ความรู้สึก : ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเชื่อถือ ความเป็นผู้ใหญ่

ห้องที่เหมาะกับโทนสีเทา : ห้องนอน ห้องรับแขก ดูน้อยลงแก้ไขถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

3. สีทาห้อง โทนสีดำ

เมื่อถึงโทนสีดำ หลายคนคงไม่คิดอยากจะนำมาทาสีบ้าน เพราะจะนึกถึงความมืดมิด ความเศร้า แต่ในปัจจุบัน สีดำถือเป็นอีกหนึ่งสีที่คนส่วนใหญ่ นำมาตกแต่งบ้าน เพราะโทนสีดำสามารถสร้างความน่าค้นหา เท่และดูทันสมัย ซึ่งเรามักจะเห็นโทนสีดำ นำมาใช้ตกแต่ง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รีสอร์ท แต่กับที่อยู่อาศัยแบบบ้าน ยังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นัก แต่ถ้าคุณอยากให้บ้านดูโดดเด่น หรูหรา คลาสสิก มีเสน่ห์ชวนมอง ขอแนะนำให้คุณลองตกแต่งบ้านหรือห้องด้วยสีดำดูครับ

การตกแต่งบ้านด้วยโทนสีดำ แนะนำให้ตกแต่งเฉพาะผนังบางส่วน หรือเป็นในส่วนของไฮไลท์ เพื่อสร้างความโดดเด่น เพราะหากตกแต่งทั้งหมดนั้น จะทำให้ภายในบ้านดูทึบ และ อึดอัด ซึ่งคุณสามารถนำโทนสีสว่าง อย่างโทนสีขาว มาใช้ในการตกแต่งร่วมกันได้ ก็จะช่วยทำให้ภายในบ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และช่วยทำให้ห้องสว่างและไม่มืดจนเกินไปครับ

โทนสีดำให้อารมณ์ ความรู้สึก : พลังอำนาจ ความน่าเกรงขาม ความหรูหรา

ห้องที่เหมาะกับโทนสีดำ : ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องทำงาน ดูน้อยลงแก้ไขถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

4.สีทาห้อง โทนสีน้ำตาล

สีที่คนส่วนใหญ่นิยมนำไปตกแต่งในสไตล์ Minimal ซึ่งจะให้ความรู้สึกอบอุ่น และความเป็นธรรมชาติ แถมชวนง่วนนอนสุดๆ จึงเหมาะมากที่จะนำมาตกแต่งห้องนอน ซึ่งการตกแต่งไม่จำกัดเพียงแค่โทนสีของผนังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ อย่างเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็ได้รับความนิยมไม้แพ้กัน อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ยังสามารถนำไปใช้ตกแต่งในสไตล์อื่นๆ ได้อีกด้วย แต่ควรมีการเลือกใช้เฉดสีที่เหมาะสม อาทิ น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน เป็นต้น ซึ่งก็จะทำให้ได้อารมณ์ของห้องที่แตกต่างกันออกไป

การเลือกใช้สีน้ำตาล แนะนำให้เลือกทาแค่ด้านใดด้านหนึ่งของผนัง และเหลือผนังด้านที่เป็นสีอ่อนเอาไว้ เพื่อทำให้ห้องดูมีมิติ ไม่คับแคบจนเกินไป หรืออาจจะผสมผสานกับสีสันอื่น ๆ เพื่อเติมความมีชีวิตชีวาให้กับห้องก็ได้นะครับ

โทนสีน้ำตาลให้อารมณ์ ความรู้สึก : ความเป็นมิตร ความอบอุ่น ความยั่งยืน

ห้องที่เหมาะกับโทนสีน้ำตาล : ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องน้ำ ดูน้อยลงแก้ไขถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

5.สีทาห้อง โทนสีเบจ

อีกหนึ่งโทนสีธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอไม่ว่าจะยุคไหน เพราะสีเบจเป็นโทนสีที่สวยงาม อบอุ่น และนุ่มนวลน่าสัมผัส โดยเฉพาะเมื่อใช้กับห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ที่ต้องการบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง เป็นโทนสีที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด

เมื่อนำโทนสีเบจมาตกแต่งภายในห้อง สามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนสีที่ใกล้เคียง อย่างสี ขาว สีน้ำตาล ได้ห้องที่ดูเป็น Minimal Style เหมาะกับแก่การพักผ่อน จนแทบไม่อยากตื่นเลยทีเดียว ไม่เหมาะที่จะใช้สีฉูดฉาดเข้ามาร่วมด้วย เพราะจะทำให้สีดูโดดเกินไป

โทนสีเบจให้อารมณ์ ความรู้สึก : ความอบอุ่น ความเรียบง่าย ความนุ่มนวล

ห้องที่เหมาะกับโทนสีเบจ : ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว

เป็น 5 โทนสีที่อยากแนะนำให้คุณลองนำไปตกแต่งกันดูนะครับ แต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับห้อง เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอารมณ์ของโทนสีเหล่านั้นได้จริงๆ แถมได้ห้องที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น ไม่ซ้ำใครแน่นอนครับ ดูน้อยลงแก้ไขถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์


====================================================================
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก สี Delta paint (https://www.deltapaint.co.th)


“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”
เลือก IRMNEXT
——————————————
รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ
Call center : 022041077/086-331-2054
Website : www.irm.co.th
ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7
#IRMNEXT
#BetterlivingBetterSolution#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่ ดูน้อยลง

5 ฟังก์ชัน “ที่จะทำให้ชีวิตในบ้าน” ง่ายขึ้น X10

ใครจะไปคิดครับ ว่าวันนึงเราจะสามารถจัดการทุกอย่างในบ้าน/คอนโดได้เพียงปลายนิ้ว?
.
ใช่แล้วครับ !! วันนี้ เรามาเสนอ 5 ฟังก์ชั่นล้ำๆ
ในแอพพลิเคชั่นที่ IRMNEXT ใช้ในการบริหารจัดการคอนโด/บ้านของท่าน แล้วมันจะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นแค่ไหน ตามไปชมกันได้เลยครับบ !!

1.จ่ายเงินแบบ DIGITAL PAYMENT
– จะอยู่ที่ไหนยังไง ก็สามารถรับรู้ใบแจ้งหนี้ได้แบบ Real time
แถมยังจ่ายผ่าน QR CODE พร้อมรับใบเสร็จได้ทันที ง๊ายยยยง่ายอะไรขนาดนี้เนี่ยยย!!

2.แจ้งซ่อมด้วยปลายนิ้ว
– ไม่ว่าจะไฟดับ น้ำไม่ไหล ท่อแตก ก็แจ้งซ่อมง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว แถมยังสามารถติดตามงานซ่อมได้ตลอดด แถมยังประเมินช่างได้หลังจากงานเสร็จ โอมายก้อดด

3.พัสดุมาปุ๊ป รู้ปั๊ป!
– จะทำงาน หรือ อยู่ที่ไหน ก็สามารถรับการแจ้งเตือนพัสดุได้ตลอด แถมรับพัสดุแบบง่ายๆ เพียงแสกน Qr code ง่ายจริงๆด้วยย

4.ส่วนกลางว่าง เราจอง!!
– จะห้องฟิตเนส ห้องประชุม หรือส่วนกลางแบบไหน เราก็จองได้ผ่านปลายนิ้ว ไม่ต้องเสียเที่ยวไปรออีกต่อปัยยยย

5.รู้ข่าวสารก่อนใคร
– ไม่ต้องไปยืนอ่านข่าวสารหน้าลิฟท์อีกต่อไป คุณสามารถรู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในบ้าน/คอนโด ผ่านหน้า Annoucement ได้ง่ายๆ จะจัดงานอะไร รู้หมดด !

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่

กฏหมายกรรมสิทธิ์ห้องชุด…ที่คุณต้องรู้!

กฎหมายคอนโด ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด หรือที่เรียกสั้นๆ คือ พ.ร.บ.อาคารชุด เป็นเรื่องปวดหัวสำหรับลูกบ้านหลายๆ คน

เจ้าของร่วมบางท่านอาจจะสงสัยว่าจำเป็นต้องรู้ด้วยหรอ ? แต่ในความเป็นจริงนั้น การรู้สิทธิและทำความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายคอนโดให้แจ่มชัดจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง และไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าของโครงการ และสามารถพึ่งพิงกฎหมายคอนโดใหม่ที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้อีกด้วย

.วันนี้ IRMNEXT จะมาแชร์เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ในเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ อาคารชุดที่คุณต้องรู้ !

.“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”เลือก IRMNEXT

1. การตั้งสำนักงานของนิติบุคคลอาคารชุด ถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนกลางและจะต้องอยู่ภายในอาคารชุดเท่านั้น

2. สิ่งก่อสร้างหรืองานระบบต่างๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยถือเป็นทรัพย์สินส่วนกลาง เช่น การจัดแสงสว่าง การปรับอากาศ การระบายน้ำ หรือการกำจัดขยะสิ่งปฏิกูล เป็นต้น

3. กรณีที่มีการจัดพื้นที่ของอาคารชุดเพื่อประกอบการค้า ต้องจัดระบบการเข้าออกในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการเฉพาะไม่ให้รบกวนเจ้าของร่วม

4. เจ้าของร่วมต้องร่วมกันออกค่าใช้จ่าย ทั้งค่าภาษีอากรและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากสิ่งของที่ใช้ประโยชน์เป็นส่วนรวม และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดูแลรักษา ซ่อมแซม ร่วมกันจ่ายตามอัตราส่วนที่เจ้าของร่วมแต่ละคนมีกรรมสิทธิ์

5. กรณีที่เจ้าของร่วมไม่ชําระเงินภายในเวลาที่กําหนด ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราไม่เกิน 12% ต่อปี หากค้างชำระเกิน 6 เดือนขึ้นไปต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มในอัตราไม่เกิน 20% ต่อปี และอาจถูกตัดสิทธิ์จากการให้บริการส่วนรวมหรือการใช้ทรัพย์ส่วนกลาง รวมทั้งไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมใหญ่ด้วย

6. บุคคลต่างด้าวถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 49% ของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมด และในอนาคตแม้จะมีเจ้าของห้องชุดที่มีการเปลี่ยนสัญชาติหรือจากผู้ที่ได้รับโอนในฐานะที่เป็นทายาทมรดกเป็นคนต่างด้าว แต่การมีกรรมสิทธิ์นั้นยังเกิน 49% ต้องจำหน่ายในส่วนที่เกินนั้นภายใน 1 ปี นับจากวันที่เสียสัญชาติไทย

——————————————

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด#บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร#บ้านโครงการใหม่

7 มาตรการเร่งด่วนแก้ไข-ป้องกัน COVID-19 ที่เราให้ความสำคัญ !!

7 มาตรการเร่งด่วนแก้ไข-ป้องกัน COVID-19 ที่เราให้ความสำคัญ

1.ใช้มาตรการคัดกรองพัสดุปลอดเชื้อ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเชื้อโรค

2.มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิและการใส่หน้ากากบริเวณหน้าทางเข้าโครงการ

3.จัดจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ

4.พ่นทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

5.จำกัดจำนวนคนหรืองดการใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง

6.ทำความสะอาดห้องเรียน/พื้นผิวสัมผัสร่วม เปิดหน้าต่างประตู ระบายอากาศ

7.ประชาสัมพันธ์ช่องทางการติดต่อฉุกเฉินในยามจำเป็น

“ทุกปัญหาที่อยู่อาศัยของคุณ..ให้เราดูแล”เลือก IRMNEXT

รับปรึกษางานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และคอนโด ด้วยทีมงานมืออาชีพ

Call center : 022041077/086-331-2054

Website : www.irm.co.th

ที่ตั้งบริษัท : https://goo.gl/maps/hBRaxuSYT9wAbnKm7

#IRMNEXT#BetterlivingBetterSolution

#บริษัทบริหารอาคารชุด #บริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร #บ้านโครงการใหม่ #COVID19